แปลไทย Pretty Boy / M2M
แปลไทย Pretty Boy ร้องโดย M2M
Lyrics: Bottolf Lødemel, Nora Christine Skaug
Vocal: Marit Larsen, Marion Raven
ตื่นมาในยามค่ำคืน
มองฟ้าก็ดูว่างเปล่า
ภายในห้วงความคิดมีเพียงแต่เขา
ราวอาจไม่เห็นผู้ใด
หลับตาและภาวนา
มองฉันหน่อยได้หรือไม่
ตัวฉันเองก็รู้ดีภายในใจ
ว่าเธอเพียงเท่านั้นคนที่ใช่
***
Oh my Pretty Boy, Pretty Boy ฉันรักเธอมากมาย
โดยที่ไม่เคยได้รักใครได้เท่าเธอ
Pretty Boy ที่กุมหัวใจ
เธอนั้นรู้สึกเหมือนกันไหม (บอกฉันว่า เธอคิดเหมือนกัน)
Oh my Pretty Boy, Pretty Boy ต้องการเธอข้างกาย
Pretty Boy, Pretty Boy ขอวอน
ให้ฉันได้เคียงอยู่ข้างเธอ
แค่เพียงเท่านั้นพอ
ตัวฉันเคยเขียนชื่อเธอ
ติดไว้กับเฟรมรูปถ่าย
และบางทียินเสียงเธอนั้นแว่วมา
ราวกับว่าเสียงนั้นอยู่ใกล้
ตอนสองเราเคียงข้างกัน
มองยิ้มเธออยู่แบบนั้น (คอยมองรอยยิ้มเรื่อยไป)
จะต้องทำแบบไหนให้เธอหันมองมา
ก่อนมันจะไม่เหลือเวลา
***
Oh Pretty Boy, Pretty Boy
ขอให้คิดเหมือนกัน
***
- - - - - - - - - - -
I lie awake at night
See things in black and white
I've only got you inside my mind
You know you have made me blind
I lie awake and pray
That you will look my way
I have all this longing in my heart
I knew it right from the start
Oh my pretty pretty boy I love you
Like I never ever loved no one before you
Pretty pretty boy of mine
Just tell me you love me too
Oh my pretty pretty boy
I need you
Oh my pretty pretty boy I do
Let me inside
Make me stay right beside you
I used to write your name
And put it in a frame
And sometime I think I hear you call
Right from my bedroom wall
You stay a little while
And touch me with your smile
And what can I say to make you mine
To reach out for you in time
Oh my pretty pretty boy I love you
Like I never ever loved no one before you
Pretty pretty boy of mine
Just tell me you love me too
Oh my pretty pretty boy
I need you
Oh my pretty pretty boy I do
Let me inside
Make me stay right beside you
Oh pretty boy
Say you love me too
Oh my pretty pretty boy I love you
Like I never ever loved no one before you
Pretty pretty boy of mine
Just tell me you love me too
Oh my pretty pretty boy
I need you
Oh my pretty pretty boy I do
Let me inside
Make me stay right beside you
แปลไทย さよなら / Sayonara ร้องโดย Kana Nishino 西野カナ
แปลไทย さよなら / Sayonara ร้องโดย Kana Nishino 西野カナ
ซิงเกิลแรกออกจำหน่ายในวันที่ 23/10/2013
Music: SAEKI youthK(RzC)
Lyrics: 西野カナ, SAEKI youthK(RzC)
Arrangement: 佐伯ユウスケ・POCHI
Vocal: 西野カナ
ในคำพูดสุดท้ายของเธอ
ฉันยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น
เธอบอก "ไม่มีใครผิด"
"ไม่ได้เกลียดเธอ"
"ขอบคุณสำหรับทุกสิ่ง" กับฉัน
สิ่งสำคัญของเราสองคน
ค่อยๆ คลาดเคลื่อนกันไป
แม้จะใช้เวลาร่วมกัน
มีเพียงฉันคนเดียวที่รีบร้อน
สิบปีให้หลัง เราจะได้พบกันอีก
จะได้พบกันที่เดิม
แม้มันอาจจะไม่เป็นไปตามที่หวัง
แต่สักวันหนึ่ง
เราจะได้พบกันอีก แม้จะเป็นเรื่องบังเอิญ
ฉันเชื่อว่าเราจะได้พบกันที่นี่
อนาคตที่เราสองคน
วาดฝันไว้ในวันนั้น
ฉันหวังว่ามันจะเป็นจริง
เธอมีความฝันเช่นนั้น
แต่ฉันเป็นคนที่ไม่เปลี่ยนแปลง
อนาคตที่มองไม่เห็น
แม้จะรอคอยต่อไปก็ไม่รู้
ความอดทนอีกเพียงเล็กน้อย
ความเหงาและเวลาเพียงเล็กน้อย
คือความสุขเสมอสำหรับฉัน
แม้จะเดินบนเส้นทางเดียวกัน
แต่ภาพอนาคตที่เรามองนั้นแตกต่างกัน
สิบปีให้หลัง เราจะได้พบกันอีก
จะได้พบกันที่เดิม
แม้มันอาจจะไม่เป็นไปตามที่หวัง
แต่สักวันหนึ่ง
เราจะได้พบกันอีก แม้จะเป็นเรื่องบังเอิญ
ฉันเชื่อว่าเราจะได้พบกันที่นี่
อนาคตที่เราสองคน
วาดฝันไว้ในวันนั้น
ฉันหวังว่ามันจะเป็นจริง
อา... ฉันไม่อยากจะเชื่อเลย
ว่าแค่ความรู้สึกชอบอย่างเดียวมันไม่พอ
แต่ตอนนี้ มันคงไม่มีทางอื่นแล้ว ใช่... ใช่แล้ว...
การที่ฉันได้พบเธอ
การที่ฉันได้รักเธอ
ในคำพูดเหล่านั้นไม่มีคำโกหกเลยสักคำ
สักวันหนึ่ง
เราจะได้พบกันอีก แม้จะเป็นเรื่องบังเอิญ
ฉันเชื่อว่าเราจะได้พบกันที่นี่
อนาคตที่เราสองคน
วาดฝันไว้ในวันนั้น
ฉันหวังว่ามันจะเป็นจริง
- - - - - - - - - - -
Kimi no saigo no kotoba ni
tachitsukusu watashi ga ita
`dare mo warukunai'
`kirai ni natta wake janai'
`ima made arigato'da nante
futari no daijinamono ga
itsunomanika surechigatte
onaji toki o sugoshinagara
watashihitori dake ga isoide itanda
junengo mo aeru yo
onaji basho de aeru yo
omoidori ni wa ikanai kamo shirenaikedo
itsuka mata
guzen demo aeru yo
kitto koko de aeru yo
futari ga kaite ita
ano Ni~Tsu no mirai ga
kitto kanau yo ni
Kimi ni wa so yume ga atta
kawarenai watashi ga ita
saki no mienai
zutto matte mo wakaranai
ato sukoshi no shinbo nante
samishikute hon'nosukoshi no
jikan ga itsumo shiawasedatta yo
onaji michi o arukinagara
mite iru mirai ga chigatte ita nda
junengo mo aeru yo
onaji basho de aeru yo
omoidori ni wa ikanai kamo shirenaikedo
itsuka mata
guzen demo aeru yo
kitto koko de aeru yo
futari ga kaite ita
ano Ni~Tsu no mirai ga
kitto kanau yo ni
ah suki to iu kimochi dakeja
dame nante shinjitakunaikedo
mo do shiyo mo nai no so so…
kun to deaeta
kimi o aishita
sono kotoba ni wa hitotsu mo uso wanaikara
itsuka mata
guzen demo aeru yo
kitto koko de aeru yo
futari ga kaite ita
ano Ni~Tsu no mirai ga
kitto kanau yo ni
- - - - - - - - - - -
君の最後の言葉に
立ち尽くす私がいた
「誰も悪くない」
「嫌いになったわけじゃない」
「今までありがとう」だなんて
二人の大事なものが
いつの間にかすれ違って
同じ時を過ごしながら
私一人だけが急いでいたんだ
十年後も逢えるよ
同じ場所で逢えるよ
思い通りにはいかないかもしれないけど
いつかまた
偶然でも逢えるよ
きっとここで逢えるよ
二人が描いていた
あの日の未来が
きっと叶うように
君にはそう夢があった
変われない私がいた
先の見えない
ずっと待っても分からない
後少しの辛抱なんて
淋しくてほんの少しの
時間がいつも幸せだったよ
同じ道を歩きながら
見ている未来が違っていたんだ
十年後も逢えるよ
同じ場所で逢えるよ
思い通りにはいかないかもしれないけど
いつかまた
偶然でも逢えるよ
きっとここで逢えるよ
二人が描いていた
あの日の未来が
きっと叶うように
ah 好きという気持ちだけじゃ
ダメなんて 信じたくないけど
もう どうしようもないの そう そう…
君と出逢えた
君を愛した
その言葉には一つも嘘はないから
いつかまた
偶然でも逢えるよ
きっとここで逢えるよ
二人が描いていた
あの日の未来が
きっと叶うように
- - - - - - - - - - -
สรุปความหมาย
เพลงนี้เป็นการบอกเล่าความรู้สึกของคนที่ถูกบอกเลิกความสัมพันธ์ โดยที่อีกฝ่ายไม่ได้มีท่าทีเกลียดชัง แต่เป็นการจากลาด้วยเหตุผลที่ทั้งสองคนค่อยๆ มองเห็นอนาคตที่ไม่ตรงกัน แม้จะยังคงมีความรู้สึกดีๆ ต่อกันอยู่
ผู้ถูกบอกเลิกยังคงจดจำคำพูดสุดท้ายที่อีกฝ่ายกล่าวไว้ และรู้สึกถึงความแตกต่างของมุมมองที่มีมาโดยตลอด แม้จะเสียใจ แต่ก็ยอมรับการตัดสินใจนั้น
ในส่วนลึกของจิตใจ ผู้ถูกบอกเลิกยังคงมีความหวังเล็กๆ ว่าสักวันหนึ่งในอนาคต แม้จะผ่านไปสิบปี หรือเป็นการพบกันโดยบังเอิญ พวกเขาจะได้กลับมาพบกันอีกครั้ง และอนาคตที่เคยร่วมวาดฝันไว้จะกลายเป็นจริง แม้จะรู้ดีว่ามันอาจจะไม่เป็นไปตามที่หวัง
เพลงนี้นี้สื่อถึงความเศร้า ความเสียใจ ความหวัง และการยอมรับในความสัมพันธ์ที่จบลง แต่ยังคงมีความปรารถนาดีและหวังว่าจะได้พบกันอีกในอนาคต
แปลไทย ハニー / Hani / Honey โดย Makichang /まきちゃんぐ [ TV series "Renai Hyakkei (恋愛百景)" ]
แปลไทย ハニー / Hani / Honey โดย Makichang /まきちゃんぐ
ซิงเกิลแรกออกจำหน่ายในวันที่ 23 มกราคม 2008
เพลงปิดท้ายละคร “Renai Hyakkei (恋愛百景)” ทางสถานีโทรทัศน์ TV Asahi
Music: まきちゃんぐ
Lyrics: まきちゃんぐ
Arrangement: 佐藤準 (Jun Satou)
Vocal: まきちゃんぐ
ผมหน้าม้าที่ไม่เท่ากัน
ดวงตาคู่นั้นที่มองมาที่ฉัน
มือขวาที่ถือบุหรี่
และลายสักมังกรบนไหล่ซ้าย
ฉันจะกระซิบเสียงร้องปนลมหายใจให้เธอได้ยิน
โอบกอดฉันเบาๆ
กอดฉันแล้วลูบผม
บอกว่ารักฉันสิ
บอกว่ารักฉันสิ
บอกว่ารักฉันสิ
ส่งมันเข้าไปในหู ในร่างกาย ในหัวใจของฉัน
ฉันต้องการทุกสิ่งทุกอย่างของเธอ
ดังนั้น กอดฉัน กอดฉัน กอดฉัน กอดฉันให้แน่น
เงาที่ยาวเหยียด
เมื่อเงาสองเงาทับซ้อนกัน
กระซิบคำรักลึกซึ้งข้างๆ หู
แนบกายชิดอกกว้างที่กอดฉันไว้
สัมผัสความอบอุ่นและปล่อยให้ร่างกายอ่อนระทวย
สัมผัสฉันอย่างอ่อนโยนจนถึงส่วนลึกที่สุด
บอกว่ารักฉันสิ
บอกว่ารักฉันสิ
บอกว่ารักฉันสิ
ส่งมันเข้าไปในหู ในร่างกาย ในหัวใจของฉัน
ฉันต้องการทุกสิ่งทุกอย่างของเธอ
ดังนั้น กอดฉัน กอดฉัน กอดฉัน กอดฉันให้แน่น
ดังนั้น ที่รัก ที่รัก หันมามองฉันสิ
บอกฉันสิว่าฉันน่ารักที่สุดในโลก
ที่รัก ที่รัก ที่รัก ที่รัก
ดังนั้น กอดฉัน กอดฉัน กอดฉัน กอดฉันให้แน่น
- - - - - - - - - - -
Fuzoroi no maegami
atashi o miru sono-me
tabako o motsu migite
hidarikata no doragon
toiki-majiri no nakigoe o kika sete ageru
sotto ude o mawashite
daki yosete kami o nadete
suki tte itte yo
suki tte itte yo
atashi o suki tte itte yo
mimi ni karada ni kokoro ni
tsukisashite yo
atashi no karadajū zenbu
anata no subete ga hoshī no
dakara daite daite daite daite
gyutto
nagaku nobita kage ga
futatsu kasanaru sonotoki
mimimoto de sasayaku
fukai ai no kotoba
dakishimeta hiroi mune ni
nukumori kanji sotto karada o yudane
oku no hō made yasashiku furete
suki tte itte yo
suki tte itte yo
atashi o suki tte itte yo
mimi ni karada ni kokoro ni
tsukisashite yo
atashi no karadajū zenbu
anata no subete ga hoshī no
dakara daite daite daite daite
gyutto
dakara hanīhanī kotchiwomuite
sekai de ichiban atashi ga kawaii tte itte
hanīhanīhanīhanī
dakara daite daite daite daite
gyutto
- - - - - - - - - - -
不揃いの前髪
アタシを見るその目
タバコを持つ右手
左肩のドラゴン
吐息混じりの鳴き声を聞かせてあげる
そっと腕をまわして
抱き寄せて髪をなでて
好きって言ってよ
好きって言ってよ
アタシを好きって言ってよ
耳に身体に心に
突き刺してよ
アタシの体中全部
貴方の全てが欲しいの
だから抱いて抱いて抱いて抱いて
ギュッと
長く伸びた影が
二つ重なるその時
耳元で囁く
深い愛の言葉
抱きしめた広い胸に
温もり感じそっと身体をゆだね
奥のほうまで優しく触れて
好きって言ってよ
好きって言ってよ
アタシを好きって言ってよ
耳に身体に心に
突き刺してよ
アタシの体中全部
貴方の全てが欲しいの
だから抱いて抱いて抱いて抱いて
ギュッと
だからハニーハニーこっちを向いて
世界で一番アタシが可愛いって言って
ハニーハニーハニーハニー
だから抱いて抱いて抱いて抱いて
ギュッと
- - - - - - - - - - -
สรุปความหมาย
เพลงนี้สื่อถึงความปรารถนาอันแรงกล้าและความต้องการความรักอย่างลึกซึ้ง ผู้หญิงในเพลงปรารถนาที่จะถูกรักและครอบครองโดยคนที่เธอรักอย่างไม่มีเงื่อนไข เธอต้องการสัมผัสความรักทั้งทางร่างกายและจิตใจ และต้องการได้รับการยืนยันว่าเธอเป็นที่รักและมีค่า
แปลไทย 煙 / Kemuri โดย Makichang /まきちゃんぐ [ TV anime "Himitsu - Top Secret "The Revelation" (秘密 -トップ・シークレット-)" ]
แปลไทย 煙 / Kemuri โดย Makichang /まきちゃんぐ
ซิงเกิลที่ 2 ออกจำหน่ายเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2008
เพลงปิดของอนิเมะทางโทรทัศน์ Nippon Television เรื่อง Himitsu - Top Secret "The Revelation" (秘密 -トップ・シークレット-)
Music: まきちゃんぐ
Lyrics: まきちゃんぐ
Arrangement: 澤近泰輔 (Taisuke Sawachika)
Vocal: まきちゃんぐ
ฉันรู้ทุกสิ่งทุกอย่างดี
ฉันยังคงรอคอยอยู่ตรงนี้
อยู่ท่ามกลางจักรวาลที่รายล้อม
ฉันต้องเดินไปไกลถึงไหนกัน
แม้แต่ความทรงจำในเปลือกตา
ก็ยังทำให้ก้อนความรู้สึกนี้เริ่มเปียกไปด้วยน้ำตา
คุณทำให้ฉันอ่อนแอลง
คุณทำให้ฉันอ่อนแอ
ฉันอ่อนแอ อ่อนแอ อ่อนแอ...
คุณไม่เคยรู้ถึงน้ำตาของฉันเลย
ร่างภาพรอยแผลและความเจ็บปวดอันร้อนระอุนี้
ส่องแสงราวกับความฝันที่ถูกเผาไหม้และโยนทิ้งไป
แม้จะจำความอ่อนโยนที่เย็นชานั้นได้
แต่ก็ยังคงเหมือนราวกับดวงจันทร์ที่ส่องแสงริบหรี่
พลังที่จะก้าวข้ามความเศร้า
ความแข็งแกร่งที่จะเชื่อมั่นนั้น
คุณทำให้ฉันอ่อนแอลง
คุณทำให้ฉันอ่อนแอ
ฉันอ่อนแอ อ่อนแอ อ่อนแอ...
คุณไม่เคยรู้ถึงน้ำตาของฉันเลย
ฉันอยากจะลืมคุณ และไปที่ไหนสักแห่งที่ไกลแสนไกล
อยากหนีไป แต่ก็ไปไม่ได้ อยากหนีไป แต่ก็ไปไม่ได้
ฉันอ่อนแอ อ่อนแอ อ่อนแอ...
คุณไม่เคยรู้ถึงน้ำตาของฉันเลย
ฉันอ่อนแอ อ่อนแอ อ่อนแอ...
ปลายทางน้ำตาของฉันจะจบลงที่ไหน คุณไม่เคยรู้เลย
- - - - - - - - - - -
Shitteita no nanimokamo
matteita no ima mo nao
torimaku uchu no man'naka de
ittai doko made ikeba i no ka
mabuta no ura no kioku sae
kono katamari o nurasu
anata wa atashi o yowaku suru
anata wa atashi o yowaku suru
atashi wa yowai yowai yowai...
atashi no namida o anata wa shiranai
hotetta mi o naguri egaite
hori nageta yume to terasu
hieta yasashi-sa o oboete mo
awaku hikaru tsuki ni onaji
kanashimi o norikoeru chikara o
shinji rareru tsuyo-sa o
anata wa atashi o yowaku suru
anata wa atashi o yowaku suru
atashi wa yowai yowai yowai...
atashi no namida o anata wa shiranai
anata o wasurete doko ka toku
yukitai ikenai yukitai ikenai
atashi wa yowai yowai yowai...
atashi no namida o anata wa shiranai
atashi wa yowai yowai yowai...
namida no yukue o anata wa shiranai
- - - - - - - - - - -
知っていたの 何もかも
待っていたの 今もなお
とりまく宇宙の真ん中で
一体どこまで行けばいいのか
まぶたの裏の記憶さえ
このカタマリを濡らす
貴方はアタシを弱くする
貴方はアタシを弱くする
アタシは弱い 弱い 弱い...
アタシの涙を貴方は知らない
火照った身を殴り描いて
放り投げた夢と照らす
冷えた優しさを覚えても
淡く光る月に同じ
悲しみを乗り越える力を
信じられる強さを
貴方はアタシを弱くする
貴方はアタシを弱くする
アタシは弱い 弱い 弱い...
アタシの涙を貴方は知らない
貴方を忘れてどこか遠く
行きたい 行けない 行きたい 行けない
アタシは弱い 弱い 弱い...
アタシの涙を貴方は知らない
アタシは弱い 弱い 弱い...
涙の行方を貴方は知らない
- - - - - - - - - - -
สรุปความหมาย
เพลงนี้สื่อถึงความรู้สึกอ่อนแอและสิ้นหวังของหญิงสาวคนหนึ่งที่ถูกคนรักทำให้เจ็บปวด เธอรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับความสัมพันธ์นี้และยังคงรอคอย แต่ก็ไม่รู้ว่าจะต้องไปไกลถึงไหน เธออ่อนแอจนอยากจะหนีไปให้ไกล แต่ก็ทำไม่ได้ น้ำตาของเธอไม่มีใครเข้าใจ และความเจ็บปวดนี้ก็ทำให้เธอรู้สึกโดดเดี่ยวและสิ้นหวัง
แปลไทย 愛の雫 / Aino Shizuku โดย Makichang /まきちゃんぐ [ TV series "Deka Wanko (デカワンコ)" ]
แปลไทย 愛の雫 Aino Shizuku โดย Makichang /まきちゃんぐ
ซิงเกิลที่ 6 ของ Makichang ออกจำหน่ายในวันที่ 26 มกราคม 2011
เพลงประกอบละครโทรทัศน์ญี่ปุ่นเรื่อง "Deka Wanko (デカワンコ)"
Music: まきちゃんぐ
Lyrics: まきちゃんぐ
Arrangement: 鈴木Daichi秀行
Vocal: まきちゃんぐ
ร่มชื่นชมยินดีเมื่อโดนฝน
กระจกหน้าต่างพร่ามัวด้วยเสียงถอนหายใจ
พยากรณ์อากาศบอกว่าฝนจะตกต่อเนื่องไปอีกนาน
ราวกับว่ามันกำลังตื่นเต้น
อดีตที่เคยหัวเราะเมื่อตอนที่เหยียบย่ำแอ่งน้ำ
ฉันลืมมันไปที่ไหนกันนะ
ดอกไม้ หญ้า ต้นไม้ ทุกสรรพชีวิต
ล้วนปรารถนาหยาดน้ำแห่งความรัก
สิ่งที่มองไม่เห็นนั้น คงเป็นเพราะ
เพื่อไม่ให้เราต้องแย่งชิงกัน
เพื่อที่จะโอบกอดเธอ
ฉันจะต้องระบายอะไรออกมา
วันที่หลงทางเหล่านั้น
ก็ยังคงมีชีวิตอยู่ในตัวฉัน
หากมีเพียงแสงอาทิตย์ ดอกไม้และผลไม้
ก็คงไม่ออกผลและเหี่ยวเฉา
สักวันหนึ่ง วันที่ฝนตกลงมา
จะต้องมาถึงวันที่เรารู้สึกรักมัน
สิ่งที่มองไม่เห็นนั้น คงเป็นเพราะ
เพื่อไม่ให้เราต้องแย่งชิงกัน
แม้แต่ความเกลียดชังและความเศร้า
ก็ยังคงโปรยปรายลงมาโอบอุ้ม
ฉันให้อภัยทุกสิ่งที่เป็นเธอ
เพราะนั้นทำให้ฉันรู้จักความรัก
เพื่อที่จะโอบกอดเธอ
ฉันจะต้องระบายอะไรออกมา
วันที่หลงทางเหล่านั้น
ก็ยังคงมีชีวิตอยู่ในตัวฉัน
มีชีวิตอยู่ในตัวฉัน
เพราะนั้นทำให้ฉันรู้จักความรัก
- - - - - - - - - - -
Ame ni uta rete yorokobu kasa
tameiki de kumoru mado garasu
tenkeyohō wa konosaki mo zutto
ame ga tsudzuku to hashaide iru
mizutamari funde wa waratta kako o
doko e atashi wa wasureta ndarou
hana mo kusa mo ki mo inochi no subete ga
ai no shizuku o nozonde iru
menimienai no wa kitto
ubaiawanai yō ni to
anata o dakishimeru tame ni
atashi wa nani o hakidasudarou
mayoi tsudzuketa hibi mo
atashi no naka ikite iru
taiyō dakede wa hana mo mi mo
tsukezu ni karete shimaudeshou
itsuka furitsudzuita ame no hi o
itoshiku omou hi ga kuru hazu
menimienai no wa kitto
ubaiawanai yō ni to
nikushimi ya kanashimini mo
tsutsumikomuyōni furisosogu
anata no subete o yurusu
atashi wa ai o shitte iru
anata o dakishimeru tame ni
atashi wa nani o hakidasudarou
mayoi tsudzuketa hibi mo
atashi no naka ikite iru
atashi no naka ikite iru
atashi wa ai o shitte iru
- - - - - - - - - - -
雨に打たれて喜ぶ傘
ため息で曇る窓ガラス
天気予報はこの先もずっと
雨が続くとはしゃいでいる
水溜まり踏んでは笑った過去を
どこヘアタシは忘れたんだろう
花も草も木も命の全てが
愛の雫を望んでいる
目に見えないのはきっと
奪い合わないようにと
貴方を抱きしめる為に
アタシは何を吐き出すだろう
迷い続けた日々も
アタシの中 生きている
太陽だけでは 花も実も
つけずに枯れてしまうでしょう
いつか降り続いた雨の日を
愛しく思う日がくるはず
目に見えないのはきっと
奪い合わないようにと
憎しみや悲しみにも
包み込むように降り注ぐ
貴方の全てを許す
アタシは愛を知っている
貴方を抱きしめる為に
アタシは何を吐き出すだろう
迷い続けた日々も
アタシの中 生きている
アタシの中 生きている
アタシは愛を知っている
- - - - - - - - - - -
สรุปความหมาย
เพลงนี้เป็นการครุ่นคิดถึงธรรมชาติของความรักและการยอมรับ อธิบายถึงความขัดแย้งระหว่างความสุขและความเศร้า การมองเห็นและการมองไม่เห็น และความสำคัญของการยอมรับทุกสิ่งที่เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต แม้กระทั่งสิ่งที่ดูเหมือนจะยากลำบาก
ความรักและการยอมรับ: เพลงนี้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการยอมรับทุกสิ่งที่เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต รวมถึงความเจ็บปวดและความทุกข์ทรมาน ความรักที่แท้จริงคือการให้อภัยและยอมรับผู้อื่นในแบบที่พวกเขาเป็น
ธรรมชาติของความรัก: เพลงนี้เปรียบเทียบความรักกับสายฝนที่โปรยปรายลงมาโอบอุ้มทุกสิ่ง ไม่ว่าจะเป็นดอกไม้ ต้นไม้ หรือแม้แต่ความเกลียดชังและความเศร้า
การมองเห็นและการมองไม่เห็น: เพลงนี้กล่าวถึงสิ่งที่มองไม่เห็น ซึ่งอาจหมายถึงความรัก ความเมตตา หรือความเข้าใจ สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่สำคัญ แต่เรามักมองข้ามไป
การเติบโตผ่านความยากลำบาก: เพลงนี้บอกว่าเราสามารถเติบโตและเรียนรู้จากความยากลำบากได้ เหมือนกับดอกไม้ที่ต้องการทั้งแสงแดดและสายฝนเพื่อที่จะเติบโต
โดยรวมแล้ว เพลงนี้เป็นเพลงที่ให้กำลังใจและสร้างแรงบันดาลใจ ให้เรายอมรับทุกสิ่งที่เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต และเรียนรู้ที่จะรักและให้อภัย
แปลไทย 鋼の心 / Hagane no kokoro โดย Makichang /まきちゃんぐ [ OST Movie "The Blue Bird (Aoi tori)" ]
แปลไทย 鋼の心 / Hagane no kokoro โดย Makichang /まきちゃんぐ
ซิงเกิลที่ 3 ออกจำหน่ายในวันที่ 5 พฤศจิกายน 2008
เพลงเปิดภาพยนตร์ค่าย Nikkatsu เรื่อง The Blue Bird (Aoi tori)
Music: まきちゃんぐ
Lyrics: まきちゃんぐ
Arrangement: まきちゃんぐ และ 坂本昌行
Vocal: まきちゃんぐ
ในแอ่งน้ำแห่งความเจ็บปวดที่ถูกสำรอกออกมา
ฉันพยายามมองหาที่ของตัวเอง
แม้จะไล่ตามแผ่นหลังของวันนั้น
แต่สิ่งที่เหลืออยู่ก็มีเพียงท้องฟ้าที่ร่ำไห้เท่านั้น
ทั้งดวงจันทร์และดวงดาวต่างเงียบงัน
ฉันตัวหดเล็กลงอยู่คนเดียว
"เมื่อมีสิ่งที่อยากปกป้อง คนเราก็จะเข้มแข็งขึ้น"
ผู้คนกล่าวเช่นนั้น
น้ำหนักบนแผ่นหลังนี้เริ่มรู้สึกสบายขึ้นเรื่อยๆ
มันค่อยๆ กวนใจฉันอย่างแผ่วเบา
ราวกับแสงที่ไหลรินลงมาจากช่องว่างระหว่างเมฆ
เธอค่อยๆ หลอมละลาย
หัวใจที่แข็งกระด้างของฉัน
เมื่อไหร่ไม่รู้ ฉันลองชั่งน้ำหนัก
จำนวนสิ่งที่เคยได้รับมา กับจำนวนสิ่งที่เคยทิ้งไป
เมื่อเห็นตาชั่งเอียงไปข้างหนึ่ง
ฉันก็ไม่สามารถปล่อยเธอลงไปได้เลย
จากช่องว่างของเหล็กกล้า อ้อมแขนของเธอ
คว้าฉันไว้แน่น
ข้ามสะพานสายรุ้งไปด้วยกันเถอะ
เงียบๆ เข้าไว้ อย่าให้ใครเห็น
ยื่นมือไปแตะราวผ้าม่าน
ราวกับแสงที่ไหลรินลงมาจากช่องว่างระหว่างเมฆ
เธอค่อยๆ หลอมละลาย
หัวใจที่แข็งกระด้างของฉัน
น้ำหนักบนแผ่นหลังนี้เริ่มรู้สึกสบายขึ้นเรื่อยๆ
มันค่อยๆ กวนใจฉันอย่างแผ่วเบา
ราวกับแสงที่ไหลรินลงมาจากช่องว่างระหว่างเมฆ
เธอค่อยๆ หลอมละลาย
หัวใจที่แข็งกระด้างของฉัน
ข้ามสะพานสายรุ้งไปด้วยกันเถอะ
เงียบๆ เข้าไว้ อย่าให้ใครเห็น
ยื่นมือไปแตะราวผ้าม่าน
ราวกับแสงที่ไหลรินลงมาจากช่องว่างระหว่างเมฆ
เธอค่อยๆ หลอมละลาย
หัวใจที่แข็งกระด้างของฉัน
เธอค่อยๆ หลอมละลาย
หัวใจที่แข็งกระด้างของฉัน
- - - - - - - - - - -
Hakidashita ha no mizu tamari ni
jibun no ibasho o sagashite miru
ano Ni~Tsu no senaka oikaketanoni
aru no wa tada naki dashita sora dake
tsuki mo hoshi mo min'na damatte shimatta
atashi wa hitorimi o chidjimeru
“mamoritaimono ka aru to hito wa tsuyoku nareru”
to hito wa iu
kono senaka no omomi ga kokochiyoku natte iku
atashi no naka o sotto kakimidasu
kumoma kara hikari ga nagareochiru yō ni
anata ga tokashite ku
hagane no kokoro
itsushika te ni shi tetamonono sū to
suteta sū tenbin ni kakete mita
ippō ni katamuku hakari o mite
anata dake wa dōshitemo nose rarenakatta
hagane no sukima kara anata no ude ga
atashi o tsuyoku tsukamu
niji no hashi o watarou
mitsukaranai yō ni hora
kātenrēru ni te o nobasu
kumoma kara hikari ga nagareochiru yō ni
anata ga tokashite ku
hagane no kokoro
kono senaka no omomi ga kokochiyoku natte iku
atashi no naka o sotto kakimidasu
kumoma kara hikari ga nagareochiru yō ni
anata ga tokashite ku
hagane no Kokoro
niji no hashi o watarou
mitsukaranai yō ni hora
kātenrēru ni te o nobasu
kumoma kara hikari ga nagareochiru yō ni
anata ga tokashite ku
hagane no kokoro
anata ga tokashite ku
hagane no kokoro
- - - - - - - - - - -
吐き出した刃の水溜りに
自分の居場所を探してみる
あの日の背中追いかけたのに
あるのはただ泣き出した空だけ
月も星もみんな黙ってしまった
アタシは一人身を縮める
「守りたいものかあると人は強くなれる」
と人は言う
この背中の重みが心地よくなっていく
アタシの中をそっと掻き乱す
雲間から光が流れ落ちるように
貴方が溶かしてく
鋼の心
いつしか手にしてたものの数と
捨てた数 天秤にかけてみた
一方に傾く秤を見て
貴方だけはどうしても乗せられなかった
鋼の隙間から貴方の腕が
アタシを強く掴む
虹の橋を渡ろう
見つからないようにホラ
カーテンレールに手を延ばす
雲間から光が流れ落ちるように
貴方が溶かしてく
鋼の心
この背中の重みが心地よくなっていく
アタシの中をそっと掻き乱す
雲間から光が流れ落ちるように
貴方が溶かしてく
鋼の心
虹の橋を渡ろう
見つからないようにホラ
カーテンレールに手を延ばす
雲間から光が流れ落ちるように
貴方が溶かしてく
鋼の心
貴方が溶かしてく
鋼の心
- - - - - - - - - - -
สรุปความหมาย
บทเพลงนี้บรรยายถึงความเจ็บปวด ความโดดเดี่ยว และความสิ้นหวังของคนที่กำลังมองหาที่ของตัวเองในโลกที่โหดร้าย พวกเขาเคยไล่ตามความหวัง แต่กลับพบเพียงความว่างเปล่าและความเศร้าโศก
อย่างไรก็ตาม เมื่อพวกเขาได้พบกับใครบางคน คนที่เข้ามาในชีวิตและมอบความอบอุ่น ความรัก และความเข้าใจ คนๆ นั้นก็ค่อยๆ หลอมละลายหัวใจที่แข็งกระด้างของพวกเขา ทำให้พวกเขารู้สึกถึงความหวังและพลังที่จะก้าวต่อไปอีกครั้ง
บทเพลงนี้เปรียบเทียบหัวใจที่แข็งกระด้างกับ "เหล็กกล้า" และความรักของคนๆ นั้นกับ "แสงที่ไหลรินลงมาจากช่องว่างระหว่างเมฆ" ซึ่งค่อยๆ หลอมละลายความแข็งกระด้างนั้นลง
โดยรวมแล้ว บทเพลงนี้เป็นเรื่องราวของการค้นพบความรักและความหวังในท่ามกลางความมืดมิด
แปลไทย Silly-Go-Round โดย FictionJunction YUUKA [Yuki Kajiura] [TV Anime : .hack//Roots OP 1]
แปลไทย Silly-Go-Round by FictionJunction YUUKA [Yuki Kajiura]
Music: Yuki Kajiura
Lyrics: Yuki Kajiura
Arrangement: Yuki Kajiura
Vocal: FictionJunction YUUKA
Chorus: Yuriko Kaida (original/live), Hikaru (live)
Musicians
Guitar: Koichi Korenaga (original/live)
Bass: Tomoharu “Jr” Takahashi (original/live)
Drums: Kyoichi Satou (original, vol.#11 live), Masuke Nozaki (vol.#4 live)
Erhu: Masatsugu Shinozaki (original)
Violin: Hitoshi Konno (live)
Piano: Yuki Kajiura (live)
Note: In the live performance, erhu was replaced with violin.
Appearances:
.hack//Roots OP 1
.hack//ROOTS OP single – Silly-Go-Round: Track 1, Track 3 (Karaoke)
Yoko Ishida – Hyper Yocomix 3: Track 9
.hack//Link Game OST: Disc 1, Track 19
FictionJunction YUUKA – Circus: Track 3, plus on Limited Edition DVD: Track 1
Mirin – Exit Trance Presents Speed Anime Trance Best 2: Track 19
Mirin – Exit Trance Presents Speed Anime Trance Best Box: Disc 2, Track 19
FictionJunction YUUKA – Yuki Kajiura LIVE vol. #4 PART 1: Track 3
Yuki Kajiura LIVE vol.#11 FictionJunction YUUKA 2days Special 2014.2.8-9 中野サンプラザ: Disc 1 Track 17, Disc 2 Track 3
แม้จะตื่นจากความฝัน
(จูบเธอในความหลงใหลอันเงียบงัน)
ฉันยังคงยื่นมือออกไป
(จูบเธอในความหลงใหลอันเงียบงัน)
ถ้าหัวใจของเราสามารถเรียกหากัน
ได้ด้วยความรู้สึกที่แรงกล้าเท่ากัน
ไม่ว่าความเจ็บปวดจะมากแค่ไหน
ฉันก็พร้อมจะรับมันไว้ทั้งหมด
ฉันรู้สึกว่าอีกเพียงนิดเดียว
กำแพงนี้จะพังทลายลง
รอคอยรุ่งอรุณ
แม้จะตื่นจากความฝัน
เรายังคงต้องวิ่งต่อไปเพียงลำพัง
สู่ความฝันที่ยังมองไม่เห็น
ความสับสนและความหลงทางที่ก่อตัวขึ้น
กลายเป็นแรงดึงดูดของฉัน
ที่จะส่งไปถึงเธอในสักวันหนึ่ง
(จูบเธอในความหลงใหลอันเงียบงัน)
แม้เคยปล่อยให้ตัวเองไหลไปตามความเหงา
แม้จะปกปิดความโกหกด้วยอีกคำโกหก
แม้จะทำผิดซ้ำ ๆ แต่ก็ยังตกหลุมรักอีกครั้ง
แม้จะเป็น "รักครั้งสุดท้าย"
แม้แสงอาทิตย์ยามเย็นที่เคยดูซ้ำซาก
กลับสวยงามจนทำให้ฉันร้องไห้
คิดว่านั่นคือเส้นชัย
แต่สุดท้ายก็แค่กระโดดกลับไปเริ่มใหม่
เราวนเวียนอยู่ในที่เดิม
ปล่อยตัวเองให้ไหลไปตามแรงขับเคลื่อน
ในสักวันหนึ่ง
ฉันอยากจะอยู่ข้าง ๆ เธอ
ข้ามผ่านแรงดึงดูดของวันวานไปด้วยกัน
เพราะว่าฉันคิดถึง
ฉันจึงได้พบกับเธอ
แม้จะตื่นจากความฝัน
เรายังคงไล่ตามความฝันต่อไป
แม้จะผิดหวังซ้ำ ๆ
แต่เรายังคงยื่นมือออกไป
แรงดึงดูดของหัวใจที่ยังขาดหาย
จะส่งไปถึงเธอในสักวันหนึ่ง
แม้จะตื่นจากความฝัน
(จูบเธอในความหลงใหลอันเงียบงัน)
ฉันยังคงยื่นมือออกไป
(จูบเธอในความหลงใหลอันเงียบงัน)
(จูบเธอในความหลงใหลอันเงียบงัน)
(sobaniche delamor)
(จูบเธอในความหลงใหลอันเงียบงัน)
(icanta idiya)
(จูบเธอในความหลงใหลอันเงียบงัน)
- - - - - - - - - - -
Yume kara samete mo
(kisui sorema disha…)
Kono te wo nobasu yo……
(Kisui sorema disha Ah…)
Onaji tsuyosa de yobiau
Kokoro ni nareru
no naraba
Nanninbun no kizu demo
Boku wa uketomerareru yo
Mou sukoshi datte
ki ga surunda
Kono kabe ga kuzureru
reimei
Yume kara samete mo
mada minai yume
no hou made
Bokura wa hitori de
hashiritsuzukeru shika nainda
Korogari mayotte tsukuridasu
boku no inryoku ga
Itsuka
kimi he
(Kisui sorema disha Ah…)
Sabishisa ni nagasaretari
Uso wo uso de kakushitari
Nandomo machigaeta no ni
Mata “Saigo no koi” wo shite
Miakita hazu no tasogare ga
Konna ni kirei dato naita
GOORU no tsumori de
RISETTO BOTAN ni tobikonde
Bokura wa guruguru
onaji basho wo mawatterunda
Ikioi makase de itsuka wa
kinou no inryoku wo koeru
kimi to
(adeta emaristari somediche delamor)
Boku wa kimi ni
(asorta miyaestari)
deau
(asaya miya…)
Yume kara samete mo
Bokura wa yume wo
noritsui de
Mada minu dareka ni korizu ni
Kono te wo nobasunda
Tarinai kokoro to karada ga
ai wo sagasu inryoku ga
todoku
kimi ni
Yume kara samete mo
(kisui sorema disha)
Kono te wo nobasu yo……
(kisui sorema disha
ah…)
(kisui sorema disha
sobaniche delamor
kisui sorema disha
icanta idiya
kisui sorema disha…)
- - - - - - - - - - -
สรุปความหมาย
เพลงนี้พูดถึงการต่อสู้กับความเหงา ความผิดหวัง และความเจ็บปวดในความรัก แม้จะทำผิดซ้ำ ๆ หรือรู้สึกเหมือนวนอยู่ในวงจรเดิม แต่หัวใจยังคงเรียกร้องและวิ่งตามความฝัน รวมถึงความหวังที่จะได้พบกับคนสำคัญอีกครั้ง เป็นเรื่องราวของการไม่ยอมแพ้ต่อความเจ็บปวดและยังคงยื่นมือออกไปสู่ความรัก การโอบกอดความฝัน, และการแสวงหาความสัมพันธ์ที่มีความหมายกับอีกคนหนึ่ง แม้ในวันที่โลกดูโหดร้ายก็ตาม
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)